นิยามตลาด
นิยามผู้ประกอบธุรกิจ
การรวมธุรกิจคืออะไร
- การรวมกันของผู้ประกอบธุรกิจ ในลักษณะต่าง ๆ เช่น
1.1 ผู้ผลิตรวมกับผู้ผลิต
1.2 ผู้จำหน่ายรวมกับผู้จำหน่าย
1.3 ผู้ผลิตรวมกับผู้จำหน่าย
1.4 ผู้บริการรวมกับผู้บริการ
- การเข้าซื้อสินทรัพย์
2.1 เข้าซื้อสินทรัพย์ของผู้ประกอบธุรกิจอื่น
2.2 ร้อยละสิบห้าขึ้นไปของมูลค่าทรัพย์สินในรอบปีบัญชีของผู้ประกอบธุรกิจอื่นที่ถูกซื้อ
2.3 เพื่อควบคุมนโยบายการบริหารธุรกิจ การอำนวยการ หรือการจัดการ
2.4 มูลค่าทรัพย์สินจะพิจารณาจากมูลค่าทางบัญชี ณ วันที่ตกลงซื้อหรือเข้าซื้อ
- การเข้าซื้อหุ้น
3.1 การเข้าซื้อหรือได้มาซึ่งหุ้น ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น หรือหลักทรัพย์อื่นที่อาจแปลงสภาพแห่งสิทธิ เป็นหุ้นได้ ณ สิ้นวันใดวันหนึ่ง เพิ่มขึ้นถึงหรือเกินกว่าร้อยละยี่สิบห้าขึ้นไปของจำนวนสิทธิออกเสียงทั้งหมดของผู้ประกอบธุรกิจอื่น ที่อยู่ภายใต้บังคับของกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
3.2 การเข้าซื้อหรือได้มาซึ่งหุ้นที่มีสิทธิออกเสียง ณ สิ้นวันใดวันหนึ่ง เพิ่มขึ้นเกินกว่าร้อยละห้าสิบขึ้นไปของจำนวนสิทธิออกเสียงทั้งหมดของผู้ประกอบธุรกิจอื่น
3.3 การนับหุ้น
– กรณีผู้เข้าซื้อหรือได้มาซึ่งหุ้นเป็นบุคคลธรรมดาให้นับรวมการเข้าซื้อหรือได้มาโดยคู่สมรสด้วย
– กรณีผู้เข้าซื้อหรือได้มาซึ่งหุ้นเป็นนิติบุคคล
– นับบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่ถือหุ้นในนิติบุคคลผู้ซื้อเกินร้อยละสามสิบของจำนวนสิทธิออกเสียงทั้งหมด
– นับผู้ประกอบธุรกิจที่มีความสัมพันธ์ทางนโยบายหรืออำนาจสั่งการด้วย
การแจ้งผลการรวมธุรกิจ
ธุรกิจใดบ้างที่ต้องแจ้งผลการรวมธุรกิจ
- มียอดเงินขายของผู้ประกอบธุรกิจรายหนึ่งหรือรวมกันตั้งแต่ 1,000 ล้านบาท ขึ้นไป
- นับรวมยอดเงินขายของบรรดาผู้ประกอบธุรกิจที่มีความสัมพันธ์กันทางนโยบายหรืออำนาจสั่งการด้วย
- ไม่ผูกขาด และ เป็นผู้มีอำนาจเหนือตลาด
- ยกเว้น การรวมธุรกิจเพื่อปรับโครงสร้างภายในของผู้ประกอบธุรกิจที่มีความสัมพันธ์กันทางนโยบายหรืออำนาจสั่งการ โดยไม่ต้องแจ้งผลการรวมธุรกิจ
การแจ้งผลการรวมธุรกิจทำอย่างไร
ผู้ประกอบธุรกิจต้องยื่นเอกสารหลักฐานประกอบการแจ้งการรวมธุรกิจต่อคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าภายใน 7 วันนับตั้งแต่วันที่รวมธุรกิจ ณ สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า หรือจัดส่งทางไปรษณีย์เป็นจดหมายลงทะเบียน
เอกสารหลักฐานประกอบการแจ้งการรวมธุรกิจ
- สำเนาเอกสารที่ยื่นต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้ากรณีการควบกิจการ
- สำเนาเอกสารที่ยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์กรณีซื้อหุ้นตามคำเสนอซื้อหลักทรัพย์
- สำเนาเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการซื้อหุ้นหรือสินทรัพย์ เช่น สัญญาซื้อขาย เอกสารการประเมินราคา
- รายงานการประชุมคณะกรรมการบริหารหรือผู้ถือหุ้นครั้งที่มีมติให้รวมธุรกิจของผู้ประกอบธุรกิจแต่ละรายทีรวมธุรกิจหรือเอกสารหลักฐานที่แสดงความประสงค์จะรวมธุรกิจ
- รายละเอียดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการรวมธุรกิจ
- รายงานการประชุมประจำปีและงบการเงินปีล่าสุดที่ผู้สอบบัญชีให้การรับรองแล้วของผู้ประกอบธุรกิจแต่ละรายที่รวมธุรกิจย้อนหลัง 3 ปี
- สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นของผู้ประกอบธุรกิจแต่ละรายที่รวมธุรกิจทั้งก่อนและหลังการรวมธุรกิจ
- หนังสือมอบอำนาจให้ดำเนินการแทน (ถ้ามี)
หมายเหตุ ให้ผู้มีอำนาจลงนามผูกพันนิติบุคคลลงนามพร้อมประทับตราสำคัญของนิติบุคคล (ถ้ามี) ในเอกสารทุกหน้า
การขออนุญาตรวมธุรกิจ
ธุรกิจใดบ้างที่ต้องขออนุญาตรวมธุรกิจ
- มียอดเงินขายของผู้ประกอบธุรกิจรายหนึ่งหรือรวมกันตั้งแต่ 1,000 ล้านบาท ขึ้นไป
- นับรวมยอดเงินขายของบรรดาผู้ประกอบธุรกิจที่มีความสัมพันธ์กันทางนโยบายหรืออำนาจสั่งการด้วย
- อาจก่อให้เกิดการผูกขาด หรือ เป็นผู้มีอำนาจเหนือตลาด
การรวมธุรกิจที่ยอดเงินขายของผู้ประกอบธุรกิจรายใดรายหนึ่งหรือของผู้ประกอบธุรกิจที่จะรวมธุรกิจในตลาดใดตลาดหนึ่งรวมกันตั้งแต่หนึ่งพันล้านบาทขึ้นไป และอาจก่อให้เกิดการผูกขาดหรือการเป็นผู้ประกอบธุรกิจซึ่งมีอำนาจเหนือตลาด
การผูกขาด หมายความว่า การมีผู้ประกอบธุรกิจรายเดียวในตลาดใดตลาดหนึ่งซึ่งมีอำนาจในการกำหนดราคาและปริมาณสินค้าหรือบริการของตนได้อย่างเป็นอิสระ และมียอดเงินขายตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป
การขออนุญาตรวมธุรกิจทำอย่างไร
- การยื่นขออนุญาตรวมธุรกิจ
ให้ผู้ประกอบธุรกิจที่จะกระทำการรวมธุรกิจอันอาจก่อให้เกิดการผูกขาดหรือการเป็นผู้ประกอบการที่มีอำนาจเหนือตลาด ยื่นคำขออนุญาตพร้อมเอกสารหลักฐานประกอบ โดยสามารถยื่นได้ด้วยตนเองหรือมอบอำนาจให้บุคคลอื่นมาดำเนินการแทน ณ สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า โดยจะต้องชำระค่าธรรมเนียมตามอัตราที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง
- การรับคำขออนุญาตรวมธุรกิจ
สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าจะมอบหลักฐานซึ่งระบุเลขที่การรับคำร้องขอเพื่อให้ผู้ยื่นคำขอใช้ติดตามการดำเนินการต่อไป ภายหลังผู้ประกอบธุรกิจที่จะรวมธุรกิจได้ยื่นเอกสารและชำระค่าธรรมเนียมเรียบร้อยแล้ว
- ขั้นตอนการพิจารณาอนุญาตการรวมธุรกิจ
- เลขาธิการเสนอคำขออนุญาตรวมธุรกิจต่อประธานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่ได้รับคำขออนุญาตเพื่อเสนอคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าพิจารณาต่อไป
- คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าอาจขอข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้ประกอบธุรกิจที่จะขออนุญาตรวมธุรกิจโดยอาจทำเป็นหนังสือเรียกข้อมูลหรือเชิญผู้ขออนุญาตมาชี้แจงก็ได้
- คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าอาจมีหนังสือเชิญบุคคลมาให้ความเห็นและข้อมูล เพื่อประกอบการพิจารณาก็ได้
- ให้คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าดำเนินการพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในเก้าสิบวันนับนับแต่วันที่ได้รับคำขอ และในกรณีมีความจำเป็นที่ไม่อาจพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในกำหนดเวลา ให้ขยายเวลาออกไปได้อีกไม่เกินสิบห้าวัน โดยบันทึกเหตุผลและความจำเป็นที่ต้องขยายเวลาไว้ในการพิจารณาวินิจฉัยด้วย
- ประเด็นพิจารณาอนุญาติการรวมธุรกิจของคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า
- 1. ความจำเป็นตามควรทางธุรกิจ
- 2. ประโยชน์ต่อการส่งเสริมการประกอบธุรกิจ
- 3. การไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจอย่างร้ายแรง
- 4. การไม่กระทบต่อประโยชน์สำคัญอันควรมีควรได้ของผู้บริโภคส่วนรวม
กรณีฝ่าฝืนการอนุญาตให้รวมธุรกิจ
ในกรณีที่ผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับอนุญาตให้รวมธุรกิจมีการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติดำเนินการตามระยะเวลาและเงื่อนไขที่ได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า ให้คณะกรรมการมีอำนาจเพิกถอนคำสั่งอนุญาตทั้งหมดหรือบางส่วน โดยจะกำหนดระยะเวลาให้ปฎิบัติไว้ด้วยก็ได้
เอกสารหลักฐานประกอบการขออนุญาตรวมธุรกิจ
- แผนการรวมธุรกิจและระยะเวลาดำเนินการ
- รายละเอียดเกี่ยวกับผู้ประสงค์รวมธุรกิจและผู้ถูกรวมธุรกิจ ซึ่งอย่างน้อยต้องประกอบด้วย โครงสร้างผู้ถือหุ้น สิทธิออกเสียง ยอดขาย ส่วนแบ่งตลาด
- ผลการศึกษาและการวิเคราะห์การรวมธุรกิจ ซึ่งอย่างน้อยต้องประกอบด้วยเอกสารดังต่อไปนี้
- การวิเคราะห์โครงสร้างผู้ถือหุ้น อำนาจควบคุมของผู้ประสงค์จะทำการรวมธุรกิจเพื่อพิจารณาความสัมพันธ์ทางนโยบายหรืออำนาจสั่งการก่อนและหลังรวมธุรกิจ
- การวิเคราะห์โครงสร้างตลาดสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวข้องกับผู้ประสงค์รวมธุรกิจเพื่อประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นภายหลังรวมธุรกิจ อย่างน้อยต้องประกอบด้วยข้อมูลผลการวิเคราะห์ ดังนี้
- การวิเคราะห์โครงสร้างตลาดก่อนและหลังการรวมธุรกิจ
- การกำหนดขอบเขตตลาด
- ส่วนแบ่งตลาดของผู้ประสงค์รวมธุรกิจทั้งก่อนและหลังการรวมธุรกิจ
- ยอดเงินขายของผู้ประสงค์รวมธุรกิจทั้งก่อนและหลังการรวมธุรกิจ
- การประเมินผลกระทบต่อการแข่งขันภายหลังการรวมธุรกิจ ในประเด็นดังต่อไปนี้
- การกระจุกตัวในตลาด
- การเข้าสู่ตลาดของผู้ประกอบธุรกิจรายใหม่และการขยายการผลิตของคู่แข่งในตลาด (Entry and Expansion) โดยพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น กฎหมายและระเบียบของรัฐ ต้นทุนการขนส่งการเข้าถึงสิทธิบัตรในเทคโนโลยีเดิม การเข้าถึงวัตถุดิบหรือสิ่งที่จำเป็นอื่น ๆ เป็นต้น
- ผลกระทบต่อการแข่งขันจากผู้ประกอบธุรกิจที่รวมธุรกิจ (Non-Coordinated Effect) หมายถึง ผลกระทบที่เกิดจากผู้ประกอบธุรกิจที่รวมธุรกิจ (Merged Entity) สามารถทำกำไรเพิ่มขึ้นจากการขึ้นราคาหรือลดคุณภาพของสินค้าเนื่องจากการแข่งขันที่ลดลง
- ผลกระทบต่อการแข่งขันที่เกิดจากการร่วมมือกัน (Coordinated Effect) หมายถึง ผลกระทบที่เกิดจากการรวมธุรกิจซึ่งอาจเพิ่มความเป็นไปได้ที่ผู้ประกอบธุรกิจจะร่วมมือกันขึ้นราคาสินค้าภายหลังการรวมธุรกิจ
- ผลกระทบต่อประโยชน์โดยรวมทางเศรษฐกิจและผู้บริโภค
- ผลกระทบด้านอื่น ๆ ที่อาจส่งผลต่อการแข่งขันในตลาด (ถ้ามี)
- ผลการประเมินประสิทธิภาพของตลาดภายหลังจากการรวมธุรกิจ
- ผลการศึกษาและวิเคราะห์ปัจจัยตามหลักการพิจารณาของคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า
- ความจำเป็นตามควรทางธุรกิจและประโยชน์ต่อการส่งเสริมการประกอบธุรกิจ
- ผลกระทบความเสียหายต่อเศรษฐกิจ
- ผลกระทบต่อประโยชน์สำคัญอันควรมีควรได้ของผู้บริโภคส่วนรวม
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
- ประกาศ กขค. เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขออนุญาตและการอนุญาตการรวมธุรกิจ พ.ศ.2561
- ประกาศ กขค. เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการแจ้งผลการรวมธุรกิจ พ.ศ. 2561
- ประกาศ กขค. เรื่อง หลักเกณฑ์การพิจารณาผู้ประกอบธุรกิจที่มีความสัมพันธ์กันทางนโยบายหรืออำนาจสั่งการ พ.ศ. 2561
- ประกาศ กขค. เรื่อง แนวทางปฏิบัติในการพิจารณากำหนดขอบเขตตลาดและส่วนแบ่งตลาด พ.ศ. 2561
- ประกาศ กขค. เรื่อง หลักเกณฑ์การพิจารณาการเข้าซื้อสินทรัพย์หรือหุ้น เพื่อควบคุมนโยบายการบริหารธุรกิจ การอำนวยการหรือการจัดการที่เป็นการรวมธุรกิจ พ.ศ. 2561
แบบคำขออนุญาต
- แบบคำขออนุญาตรวมธุรกิจ ตามประกาศคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าเรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขออนุญาตและการอนุญาตการรวมธุรกิจ พ.ศ. 2561
- แบบแจ้งการรวมธุรกิจ ตามประกาศคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข การแจ้งผลการรวมธุรกิจ พ.ศ. 2561
บทลงโทษ
- ในกรณีที่ผู้ประกอบธุรกิจไม่แจ้งผลการรวมธุรกิจ ภายใน 7 วันหลังการรวมธุรกิจ ต้องชำระค่าปรับทางปกครองในอัตราไม่เกิน 200,000 บาท และปรับอีกในอัตราไม่เกิน 10,000 บาท ต่อวัน ตลอดเวลาที่ฝ่าฝืนอยู่
- ในกรณีที่ผู้ประกอบธุรกิจที่ไม่ขออนุญาตก่อนรวมธุรกิจ จะมีโทษปรับในอัตราไม่เกิน 0.5% ของมูลค่าในการรวมธุรกิจ